หากคุณเป็นคนที่มีเงินก้อน จากการเกษียณ ได้รับเงินโบนัสหรือได้รับเงินมรดก แล้วไม่รู้จะเอาเงินไปไว้ที่ไหน กังวลว่าใส่เงินลงทุนไปในสินทรัพย์จะมีความเสี่ยงอะไรบ้าง แล้วลงทุนไปแล้วถ้าอยากใช้เงินระหว่างทางจะถอนออกมายังไง ถ้าขาดทุนอยู่ก็ไม่อยากขายขาดทุน อยากลงทุนให้มี passive income และอยากให้เงินต้นโตเฉลี่ยมากกว่าเงินเฟ้อ

วันนี้หลักทรัพย์บัวหลวงมีตัวช่วยที่จะมาแก้ปัญหาของนักลงทุน มาติดตามในบทความนี้ได้เลยครับ

ก่อนอื่นเรามาลองวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันกันก่อน ซึ่งมีความไม่แน่นอนและความกังวลมากมาย ทั้งเรื่องของโรคระบาด สงครามและความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรา และกระทบต่อราคาสินทรัพย์ต่างๆ

คำถามคือสถานการณ์แบบนี้เราควรจะเก็บเงินไว้ที่ไหน และแบ่งเงินอย่างไร
  จากรูปผลตอบแทน จะเห็นได้ว่าสินทรัพย์แต่ละประเภทหรือหุ้นต่างภูมิภาคก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนกัน อย่างเช่นในช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมา ทองคำปรับตัวขึ้นสวนทางกับหุ้นที่ปรับตัวลง เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่มีสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนได้ดีที่สุดตลอดเวลา และการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าการกระจายหลายสินทรัพย์

กล่าวได้ว่า การลงทุนด้วยเงินทั้งหมดในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง มูลค่าเงินลงทุนอาจปรับตัวลงได้มากกว่าการลงทุนแบบกระจายสินทรัพย์ และหากเกิดต้องการใช้เงิน ในช่วงที่ขาดทุนหนักก็ทำใจขายลำบาก และมูลค่าเงินอาจหายไปได้มาก

ดังนั้นวิธีการที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนสามารถทนทานทุกสภาวะตลาด แบบไม่หวั่นแม้วันมามาก และสามารถเติบโตได้มากกว่าเงินเฟ้อ คือการลงทุนแบบกระจายสินทรัพย์หรือ Asset Allocation นั่นเอง
 
และตัวช่วยที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ คือ บริการ BLS Top Funds Portfolio ระบบจัดพอร์ตกองทุนรวมอัตโนมัติ
กับกลยุทธ์ Dividend income asset allocation (DAA) โดยมีจุดเด่นดังนี้

• ลงทุนกระจายสินทรัพย์: ทั้งสินทรัพย์เสี่ยงและมั่นคง ทั้งในและต่างประเทศ เช่นหุ้นไทย หุ้นสหรัฐฯ หุ้นจีน ตราสารหนี้ เป็นต้น
• ผ่านกองทุนรวมที่เป็นตัวแทนแต่ละประเภทสินทรัพย์: วิเคราะห์ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ จัดลำดับโดยการให้คะแนน เพื่อคัดเลือกกองทุนแต่ละประเภทที่ดีที่สุดที่สามารถเป็นตัวแทนสินทรัพย์แต่ละประเภทได้ จาก 18 บลจ.
• รับเงินปันผลตลอดทาง: จากการลงทุนผ่านกองทุนรวม หลายกองที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคารของผู้ลงทุนโดยตรง
• อัตโนมัติทั้งหมด: ทั้งการจัดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท การคัดเลือกกองทุนที่เหมาะสม รวมไปถึงการปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างทาง และส่งคำสั่งซื้อขายให้อัตโนมัติ
• ดูแลโดยมืออาชีพ: ทั้งทีมงานนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน
• ติดตามผลการลงทุนได้ง่ายๆ: เห็นสถานะพอร์ตการลงทุนทุกวัน ผ่านแอพพลิเคชั่น Streaming Fund+

ตัวอย่างน้ำหนักแต่ละสินทรัพย์และกองทุนรวมที่ลงทุน (เดือนกุมภาพันธ์ 2566)
   

• เงินลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาท เมื่อสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ Wealth CONNEX
• ฟรีค่าธรรมเนียม มีเฉพาะค่าธรรมเนียมการขาย รับซื้อคืน ตามกองทุนต้นทาง (ค่าธรรมเนียมเปรียบเสมือนซื้อขายกองทุนด้วยตนเอง ไม่มีค่าธรรมเนียมอื่นเพิ่มเติม)

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
 
จากผลการดำเนินงานย้อนหลัง (Annual Return) จะเห็นได้ว่า ผลการดำเนินงานในเชิง Capital Gain มูลค่าพอร์ตการลงทุนเติบโตเฉลี่ยสูงกว่าเงินเฟ้อ และได้รับเงินปันผลทุกปีแม้แต่ในปี 2022 ที่ทุกสินทรัพย์พากันขาดทุนกันถ้วนหน้า โดยคิดเป็นเงินปันผลเฉลี่ยปีละ 3.5%
 
จากผลการดำเนินงานย้อนหลัง (Dividend) เป็นการแสดงผลตอบแทนจากเงินปันผลและจำนวนครั้งที่จ่ายเงินปันผลในแต่ละปี โดยจะเห็นว่าเงินปันผลมีความสม่ำเสมอ ได้เงินปันผลเกือบจะทุกเดือน และบางเดือนมากกว่า 1 ครั้ง ทำให้มีรายได้จากการลงทุนสม่ำเสมอ เป็นอีกทางสำหรับการสร้าง Passive Income

และสุดท้ายนี้ ประเด็นสำคัญ คือ สถานการณ์ความกังวลมากมายต่างๆ ในปัจจุบัน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่มีเหตุการณ์ในเชิงลบเกิดขึ้นมากมายในแต่ละช่วงเวลา และส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุน แต่ท้ายที่สุดแล้วประวัติศาสตร์ก็แสดงให้เห็นว่าตลาดการลงทุนก็ยังสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้เรื่อยๆ
 
ดังนั้นช่วงที่ราคาสินทรัพย์ปรับตัวลงมา เป็นวิกฤตหรือโอกาสอยู่ที่มุมมองแต่ละคน ลองตัดสินใจกันดูครับ