.png)
จัดพอร์ตกองทุนรวมอัตโนมัติ ตัวช่วยสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน
“การไม่ขาดทุนเป็นลาภอันประเสริฐ” คำกล่าวนี้ไม่เกินจริง เชื่อว่านักลงทุนทุกท่านต่างปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง การขาดทุนเป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการวางกลยุทธ์ให้พอร์ตการลงทุนมีความสมดุล โดยการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคงมากขึ้น
ทำไม Asset Allocation ถึงสำคัญ?
การลงทุนไม่ใช่แค่การเลือก “หุ้นดี” หรือ “กองทุนดัง” เท่านั้น แต่หัวใจที่แท้จริงของความสำเร็จระยะยาวคือ การกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ (Asset Allocation) เพราะแต่ละสินทรัพย์มีรอบการเติบโตและความผันผวนต่างกัน เช่น บางปีหุ้นสหรัฐฯ (Large Cap) อาจทำผลตอบแทนสูงสุด แต่ปีถัดไปกลับเป็นหุ้นตลาดเกิดใหม่ (EM Equity) หรือแม้แต่ทองคำ (Commodity) ที่ขึ้นมาโดดเด่น
จากตารางผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่างๆ Asset Class Returns (2010–2024) อ้างอิงจากทาง J.P. Morgan แสดงให้เห็นชัดว่า ไม่มีสินทรัพย์ใดชนะตลาดได้ทุกปี การจัดพอร์ตที่ผสมผสานทั้งหุ้นทั่วโลก พันธบัตร สินทรัพย์ทางเลือก จะช่วย “ลดความเสี่ยงกระจุกตัว” และ “รักษาสมดุลผลตอบแทน” ได้ดีกว่าการเดิมพันกับสินทรัพย์เดียว
2 ตัวแปรสำคัญ: สูตรลดโอกาสขาดทุน
1. กระจายการลงทุน (Diversification)
ไม่ลงทุนเพียงสินทรัพย์เดียว เช่น ลงทุนแค่หุ้น หรือแค่พันธบัตร
แต่ใช้ “การจัดพอร์ต” ให้ผสมสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อลดโอกาสพอร์ตผันผวนแรง และช่วยกระจายผลตอบแทนให้อย่างเหมาะสม
ผลลัพธ์คือ เมื่อหุ้นผันผวน พันธบัตรและสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ทองคำ จะช่วยลดแรงกระแทกได้
ตัวอย่างเช่น
ปี 2022 หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นโลกติดลบแรงกว่า -13% ถึง -20% แต่ Commodities กลับให้ผลตอบแทน +16.1% ทำให้พอร์ตที่มีการกระจายสินทรัพย์ไม่ขาดทุนหนักเหมือนผู้ที่ถือหุ้นอย่างเดียว
2.ลงทุนระยะยาว (Long-term Investment)
“หนทางพิสูจน์แรงม้า กาลเวลาพิสูจน์ผลตอบแทน” อ้างอิงข้อมูลจาก J.P. Morgan (1950–2024)
หากลงทุนในหุ้น (S&P500) เพียง 1 ปี ผลตอบแทนอาจสูงสุด +52% หรือแย่สุด -37%
แต่ถ้าลงทุนระยะ 20 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ยแทบไม่เคยติดลบเลย โดยหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.6% ต่อปี และแม้จะจัดพอร์ตผสม (หุ้น 60% พันธบัตร 40%) ก็ยังได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.4% ต่อปี แต่ความผันผวนของราคาต่ำลง พูดง่ายๆ คือ ยิ่งลงทุนยาว ความเสี่ยงขาดทุนยิ่งลดลง และโอกาสได้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีต่อเนื่องยิ่งสูงขึ้น
ดังนั้น การลงทุนที่ยั่งยืน ไม่ใช่การวิ่งหาผลตอบแทนสูงสุดในระยะสั้น แต่คือการ จัดพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง (Asset Allocation) และ ลงทุนระยะยาว ซึ่งข้อมูลย้อนหลังพิสูจน์แล้วว่า กลยุทธ์นี้ช่วยลดโอกาสขาดทุนและยังสร้างผลตอบแทนมั่นคงได้ต่อเนื่อง
แล้วจะเลือกลงทุนอย่างไรดี
หากคุณกำลังเจอปัญหาคลาสสิคเหล่านี้... Auto Top Funds Portfolio ช่วยคุณได้
1. ไม่รู้จะลงทุนอะไรดี . . . BLS มีคำตอบ จัดพอร์ตด้วยระบบการลงทุนระดับโลกด้วย Black-Litterman Model คำนวณสัดส่วนการลงทุนนหลากหลายสินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด บนผลตอบแทน และความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยมีทีม Wealth Research มากประสบการณ์คอยดูแลและกำหนดมุมมองการลงทุน และมีทีมงาน Product คอยคัดเลือกกองทุนรวมตัวท็อป ผลงานโดดเด่นจาก 17 บลจ. ชั้นนำ เพื่อเข้าลงทุนในพอร์ต
2. ไม่มีเวลาติดตาม . . . BLS ปรับพอร์ตตามภาวะตลาดให้ และส่งคำซื้อขายกองทุนรวมให้อัตโนมัติ ไม่เสียเวลาในการส่งคำสั่งเองหลายครั้ง และไม่มีค่าธรรมเนียมในการบริหารพอร์ต เหมือนกับนักลงทุนไปซื้อกองทุนเองปกติ เพียงแต่เราทำให้ทุกอย่างด้วยระบบที่มีคุณภาพ
3. ยุ่งยาก ซับซ้อน . . . BLS จัดให้ สามารถติดตามพอร์ตการลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่าน แอปพลิเคชัน Streaming Fund+ ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยปลายนิ้วคุณเอง พร้อมรายงานประจำเดือนส่งถึงมือนักลงทุน และมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแล และติดตามการลงทุนให้กับคุณ เพื่อไม่ให้พลาดทุกจังหวะการลงทุน ทำให้คุณสบายใจ ไร้กังวล
4. กังวล ค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน . . . BLS ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการบริหารเพิ่มเติม เสมือนนักลงทุนซื้อกองทุนรายกองปกติทั่วไป ซึ่งทาง BLS บริหารจัดพอร์ต เลือกกองทุนที่โดดเด่น และส่งคำสั่งซื้อขายให้อัตโนมัติ โดยไม่เรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม แต่อย่างใดสักบาท
โดยปัจจุบัน Auto Top Funds Portfolio มีทั้งหมด 7 พอร์ตการลงทุน เพื่อให้เลือกลงทุนตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายการลงทุน
1. เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 3 โมเดล ได้แก่
2. คาดหวังผลตอบแทน และกระจายการลงทุนตามระดับความเสี่ยงของตนเอง
- Conservative Asset Allocation (CAA)
- Moderate Asset Allocation (MAA)
- Aggressive Asset Allocation (AAA)
ผลตอบแทนย้อนหลังนับจากปี 2023 - ปัจจุบัน (19 ส.ค. 2025)
3. ต้องการรับกระแสเงินสดระหว่างทาง เน้นกระจายลงทุนในกองทุนจ่ายเงินปันผล
- Dividend Income Asset Allocation (DAA)
พอร์ต DAA เน้นลงทุนในกองทุนปันผลที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนได้ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการใช้เงินระหว่างการลงทุน เช่น ในปี 2023 ที่ผ่านมา กองทุนสามารถจ่ายปันผลได้ 11 ครั้ง คิดเป็น 3.62% หักภาษีเรียบร้อยจากต้นทาง
โดยทั้งหมด 7 พอร์ตการลงทุน นักลงทุนสามารถสับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์การลงทุน และภาวะตลาด ไม่จำกัดเวลาในการถือครอง ไม่มีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการพอร์ต เก็บค่าธรรมเนียม การขาย การรับซื้อคืน และ การสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนตามจริง อ้างอิงตามกองทุนต้นทาง และไม่มีการกำหนดระยะเวลาการถือครอง บริหารให้แบบกองทุนส่วนบุคคล ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 500,000 บาท
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุน Auto Top Funds Portfolio สามารถสมัครบริการได้ผ่าน
- แอปพลิเคชัน Wealth Connex เลือกเมนู Solution > Account Opening > Open Auto Top Funds Portfolio account
- แอปพลิเคชัน Streaming
- Website หลักทรัพย์บัวหลวง
- หรือหากสนใจข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติม สามารถสอบถามไปยังผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือติดต่อได้ที่ 02 618 1111