
การเก็บเงินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอให้เราบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ ดังนั้น การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อแสวงหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่งอกเงยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่เร็วขึ้น ภายใต้ความเสี่ยงที่เรารับได้
กองทุนรวม ถือเป็นหนึ่งทางเลือกในการลงทุนแบบกระจายพอร์ตได้ง่ายๆ สำหรับทั้งมือใหม่และมือเก๋า ที่เราสามารถเลือกนโยาบายการลงทุนที่ต้องการได้ เช่น เน้นลงทุนรักษาสภาพคล่องอย่างตราสารหนี้ กระจายการลงทุนแบบผสมผสานอย่างกองทุนผสม หรือจะเลือกลงทุนในบริษัทชั้นนำทั่วโลก ก็ทำได้โดยใช้เงินเริ่มต้นเงินไม่สูง ก็สามารถกระจายการลงทุนได้ครบถ้วนทุกสินทรัพย์
กองทุนรวม คืออะไร ?
การลงทุนในกองทุนรวม คือ การที่นักลงทุนหลาย ๆ รายนำเงินมารวมกันเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ โดยมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารจัดการแทน ตามนโยบายของกองทุนรวมนั้น ๆ ถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับมือใหม่ ไม่ต้องคอยติดตามตลาดเองตลอดเวลา
กองทุนรวม ลงทุนในอะไรได้บ้าง ?
ระดับความเสี่ยงของกองทุนรวม
ความแตกต่างระหว่าง หุ้นรายตัว VS กองทุนรวม
ศึกษานโยบายการลงทุนเบื้องต้นผ่าน Fund Fact Sheet
Fund Fact Sheet หรือ หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม เป็นข้อมูลโดยย่อที่แสดงเกี่ยวกับนโยบาย ลักษณะผลตอบแทน ความเสี่ยง และเงื่อนไขต่างๆ ของกองทุน เพื่อให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ข้อมูลที่ควรรู้ใน Fund Fact Sheet
ยกตัวอย่าง กองทุน B-VIETNAM
ข้อมูลเบื้องต้นของกองทุนรวม
(1) ควรใช้ Fund Fact Sheet ชุดล่าสุดในการศึกษาข้อมูล เช็คจากวันที่เอกสารออก มุมบนขวา (รายเดือน)
(2) ชื่อกองทุนรวม ตรวจสอบชื่อกองทุนให้ถูกต้องทั้งชื่อเต็ม และชื่อย่อ
(3) ประเภทของกองทุนรวม บางกองทุนเดียวกันจะมีแยกหลายคลาสให้เลือก ต้องเลือกคลาสให้ถูกต้องตามจุดประสงค์ เช่น คลาสสะสมมูลค่า คลาสปันผล คลาสลดหย่อนภาษี เป็นต้น
(4) ระดับความเสี่ยงของกองทุนรวม เลือกความเสี่ยงกองทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ ทั้งนี้สามารถดูระดับความเสี่ยงของตนเองได้จากการทำแบบประเมินความเสี่ยง (Risk Profile) ตอนเปิดบัญชีนั่นเอง
(5) นโยบายการลงทุน
- สินทรัพย์ที่กองทุนรวมลงทุน มีการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง
- กลยุทธ์ในการบริหารกองทุนรวม เป็นประเภท Active หรือ Passive (กองทุน Active คือลงทุนให้ผลตอบแทนเอาชนะดัชนีชี้วัด ส่วนกองทุน Passive คือลงทุนให้ผลตอบแทนใกล้เคียงตามดัชนีชี้วัด)
(6) ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ก่อนตัดสินใจลงทุน
(7) อัตราค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมของกองทุนรวมจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
(1) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม คิดเป็น % ต่อปีของ NAV เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการกองทุน เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ ผู้ดูแลผลประโยชน์ นายทะเบียน โดยจะถูกคิดและหักออกทุกวัน
(2) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุน คิดเป็น % ของมูลค่าซื้อขาย เช่น ค่าธรรมเนียมการขาย การรับซื้อคืน การสับเปลี่ยน ซึ่งจะถูกคิดรวมในราคาซื้อขายแล้ว ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะไม่กระทบกับเงินทรัพย์สินของกองทุนรวม แต่จะกระทบกับผลตอบแทนที่เราจะได้รับ
(8) สัดส่วนของประเภททรัพย์สินที่กองทุนรวมลงทุน
ในส่วนแรก ดูว่ากองทุนรวมนั้นลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใด เป็นสัดส่วนเท่าไหร่บ้าง
ในส่วนที่สอง ดูรายชื่อสินทรัพย์ที่มีการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก
(9) ข้อมูลการซื้อขายหน่วยลงทุน
กองทุนรวมแต่ละกองจะมีการกำหนดวันเวลา และจำนวนเงินขั้นต่ำของการซื้อ-ขายหน่วยลงทุน ที่ไม่เท่ากันในแต่ละบลจ. เช่น
แล้วจะรู้ได้ไงว่าควรลงทุนกองไหน
BLS เราคัดเลือกกองทุนผลงานเด่นมาให้กับท่านแล้ว พร้อมเสิร์ฟผ่านรายงาน BLS Top Funds ทุกสัปดาห์
"คัดเลือกกองทุนรวมที่มีผลงานโดดเด่นจาก 17 บลจ.ชั้นนำ ผ่านแนวทางการลงทุนของเรา ทำให้มั่นใจได้ว่าเราคัดสรรกองทุนเด่นให้กับนักลงทุนอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่พลาดโอกาสในการเข้าจับจังหวะลงทุนไปกับ Tactical Funds Portfolio ของเรา"
- Funds Universe : กองทุนรวมกว่า 2,000 กอง จาก 17 บลจ.ชั้นนำ
- Funds Watchlist : คัดเลือกกองทุนตัวท็อป 5 อันดับแรกแต่ละประเภทกองทุน
- Top Funds Recommend : เลือก 1 กองทุนที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทตามแนวทางการลงทุนของเราผ่านโมเดล B-Score
✔ ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวงสามารถติดตามรายงาน BLS Top Funds ฉบับเต็มได้ที่ Wealth Connex Application > Messages > Wealth Ideas
เปิดบัญชีหุ้นคู่กองทุนผ่าน AomWise
เปิดบัญชีกองทุนออนไลน์…พร้อมซื้อได้ครบที่เดียว 17 บลจ.
เปิดครั้งเดียวได้ทั้งบัญชีหุ้น และกองทุน ประเภท Omnibus + Segregate อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
เงื่อนไขการเปิดบัญชี: สำหรับผู้ลงทุนที่ยังไม่เคยมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับหลักทรัพย์บัวหลวง