.png)
นักลงทุนไทยให้ความสนใจใน DR (Depositary Receipt) มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ลงทุนในหุ้นหรือ ETF ต่างประเทศได้ง่ายผ่านตลาดหุ้นไทย แต่เมื่อคนเริ่มเข้ามาลงทุนอาจจะเกิดความสงสัย หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับ DR บทความนี้จะมาช่วยไขข้อสงสัยให้ชัดเจนขึ้น
1. หลักทรัพย์อ้างอิงของ DR
ผู้ออก DR จะต้องเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. โดย DR ทุกหน่วยจะต้องมีหลักทรัพย์อ้างอิงจริงรองรับเสมอตามเกณฑ์ที่กำหนด ไม่ว่าจะออกในอัตราส่วนแบบใดก็ตาม
ผู้ออก DR มีหน้าที่ซื้อและถือครองหุ้นหรือ ETF อ้างอิงจริงก่อน แล้วจึงนำมาสร้างเป็น DR ในตลาดหุ้นไทย และยังต้องรายงานจำนวน DR คงเหลือให้ตลาดหลักทรัพย์ทุกวันทำการ นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่า DR มีหลักทรัพย์รองรับจริง ไม่ได้ถูกออกมาเกินกว่าที่ถืออยู่
ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของผู้ออกจึงเป็นปัจจัยสำคัญ เช่น หลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งได้รับอันดับเครดิตระดับ AA จาก Tris Rating นอกจากนี้ยังมี Market Maker ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง เพื่อให้ราคาซื้อขาย DR ในตลาดหุ้นไทยใกล้เคียงกับราคาหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศเปิดทำการตรงกัน
2. กลไกราคา DR
โดยทั่วไปราคา DR จะมีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามราคาหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ โดยมี Market Maker คอยดูแลให้สะท้อนหลักทรัพย์อ้างอิงอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็อาจมีบางช่วงเวลาที่ราคา DR และหลักทรัพย์อ้างอิงดูไม่ตรงกันบ้าง ซึ่งอาจเกิดจาก 4 ปัจจัยสำคัญ เช่น
1) อัตราแลกเปลี่ยน ราคาของ DR คำนวณโดยนำหลักทรัพย์อ้างอิงมาคูณกับอัตราแลกเปลี่ยน เช่น USD/THB หรือ HKD/THB หากเงินบาทอ่อนค่า ราคาของ DR อาจดูแพงกว่าหุ้นแม่ และหากเงินบาทแข็งค่า ราคาของ DR ก็อาจดูต่ำกว่าได้
2) เวลาเปิดตลาดไม่ตรงกัน เช่น ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดประมาณ 15.00 น. ตามเวลาไทย แต่ตลาดหุ้นไทยยังเปิดถึง 16.30 น. ทำให้เกิดช่วงเวลาที่ DR ยังซื้อขายได้ แต่หลักทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวแล้ว เช่น สมมติหุ้น Alibaba (9988.HK) ปิดตลาดฮ่องกงบวก +2% ตอนบ่ายสาม แต่ในช่วงบ่ายที่ตลาดหุ้นไทยยังเปิดอยู่ ราคาของ BABA01 อาจยังเคลื่อนไหวตาม Demand–Supply ของนักลงทุนไทย จนปิดตลาดไทยที่ +5%
วันถัดมา เมื่อ Alibaba (9988.HK) เปิดตลาดตอน 8:30 น. และบวกต่ออีก +4% แต่ BABA01 อาจบวกเพียง +1% เพราะวันก่อนหน้า DR ปรับขึ้นไปเกินกว่าหุ้นแม่แล้ว ทำให้ Market Maker ต้องเข้ามาดูแลราคาเพื่อปรับให้สอดคล้องกับหุ้นแม่และกลับสู่ระดับที่เหมาะสม
ดังนั้น เวลาดู %ผลตอบแทนของ DR เทียบกับหลักทรัพย์อ้างอิงในแต่ละวัน ควรเทียบเฉพาะช่วงเวลาที่ตลาดเปิดตรงกัน จะสะท้อนความจริงมากกว่า โดยนักลงทุนสามารถติดตามช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน DR01 ได้ที่ด้านล่างนี้
3) ราคาซื้อขาย DR ล่าสุด (Match Price) เวลาที่นักลงทุนเปิดดู %ผลตอบแทนของ DR ตัวเลขที่เห็นจะขึ้นอยู่กับ “ราคาซื้อขายล่าสุด” ในตลาด ซึ่งบางครั้งอาจเกิดจากคำสั่งซื้อขายที่ไปจับคู่ (match) อยู่ฝั่ง Offer (ราคาขาย) ที่สูงกว่าระดับจริงเล็กน้อย หรือจับคู่ฝั่ง Bid (ราคาซื้อ) ที่ต่ำกว่าระดับจริงก็ได้
อีกทั้งยังมีผลจาก “Tick Size” หรือช่องการขยับของราคาในตลาดหุ้นไทย ที่ทำให้การขยับเพียง 1 ช่องราคา ส่งผลให้ %ผลตอบแทนของ DR ดูต่างไปได้มากถึงราว 1% ในบางกรณี จึงอาจทำให้ตัวเลขที่เห็น ณ ขณะนั้น อาจดูไม่ตรงกับราคาหลักทรัพย์อ้างอิงเล็กน้อย แม้ในความเป็นจริง Market Maker ยังคงดูแลให้ DR เคลื่อนไหวสอดคล้องกับหลักทรัพย์อ้างอิงในช่วงที่ทั้งสองตลาดเปิดตรงกันอยู่
4) Demand ของนักลงทุนไทย ช่วงข่าวดี/ร้ายแรงๆ DR อาจมีการซื้อขายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนจากราคาหุ้นแม่ โดยเฉพาะในภาวะที่ Market Maker มีข้อจำกัดในการดูแลสภาพคล่องของ DR เช่น ช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศเปิดไม่ตรงกัน หรือในกรณีที่ตลาดต่างประเทศติดเกณฑ์ Ceiling & Floor ทำให้ Market Maker มีข้อจำกัดในการดูแลสภาพคล่อง
แนวทางการประเมินราคา DR ที่เหมาะสม
นักลงทุนควรใช้ตารางราคา iNAV (Indicative NAV) ซึ่งเป็นราคาประเมินตามหุ้นอ้างอิงแบบเรียลไทม์ที่รวมอัตราแลกเปลี่ยนเข้าไปแล้ว เครื่องมือนี้แสดงอยู่บนเว็บไซต์ของผู้ออก DR เช่น DR01 ของหลักทรัพย์บัวหลวงสามารถดูได้ที่ www.bualuang.co.th/dr
ราคา iNAV ณ วันที่ 15/09/2025
3. ต้นทุนของการลงทุนใน DR
- ค่าธรรมเนียมซื้อขาย เหมือนกับหุ้นไทยทั่วไป เช่น ค่าคอมมิชชั่น, ค่าธรรมเนียม TSD ฯลฯ
- DR ไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดการเพิ่มเติม เช่น สำหรับ DR อ้างอิง ETF ของหลักทรัพย์บัวหลวง จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการเพิ่มเติมจาก ETF ต้นทาง
- ภาษีจากกำไรการขาย กำไรจากการขาย DR ไม่ต้องนำมารวมในฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต่างจากการลงทุนต่างประเทศโดยตรง ซึ่งต้องนำมาคำนวณภาษีทุกปี ทำให้ DR สะดวกสำหรับนักลงทุนที่ไม่อยากวุ่นวายเรื่องภาษี
- ภาษีจากปันผล ปันผลจาก DR จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 2 รอบ:
- รอบแรก: ตามกฎหมายของประเทศต้นทาง เช่น สหรัฐฯ ส่วนใหญ่หัก 15% (เพราะสมัครบริการ US Tax) หรือ ฮ่องกงหัก 10% สำหรับ H-share (ETF ฮ่องกงมักไม่ถูกหัก)
- รอบที่สอง: เมื่อเงินถูกส่งกลับไทย จะถูกหักเพิ่มอีก 10% ตามกฎหมายไทย เหมือนกับหุ้นไทยทั่วไป
สรุปสั้น ๆ : DR เป็นตราสารที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงรองรับจริง เคลื่อนไหวตามตัวแม่เป็นหลัก แต่ราคาบางช่วงอาจไม่ตรงได้บ้าง เพราะปัจจัยเรื่องค่าเงิน เวลาเปิดตลาดไม่ตรงกัน ราคาซื้อขายล่าสุด และ demand ของนักลงทุนไทย สุดท้ายต้องไม่ลืมเรื่องต้นทุนการลงทุนด้วย ทั้งนี้นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของ DR01 ได้ที่ www.bualuang.co.th/dr