
Tips
เงินสด ถือเป็นส่วนสำคัญในการวัดสภาพคล่องสำหรับธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจสามารถนำเงินไปลงทุน (เมื่อมีโอกาส) หรือใช้ยามฉุกเฉินได้ โดยกิจกรรมหลัก ๆ ของเงินสด ได้แก่ กิจกรรมดำเนินงาน กิจกรรมลงทุน และกิจกรรมจัดหาเงิน...แล้วนักลงทุนสามารถใช้เงินสด มาประเมินกิจการของหุ้นที่ลงทุนได้อย่างไร ไปติดตามกันเลย
โดยมีสูตรในการคำนวณ ดังนี้


จากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง จะเห็นตารางการคำนวณหาราคาหุ้นดังในภาพ ซึ่งจะเห็นมูลค่ากระแสเงินสดอิสระของกิจการ (FCFF) ที่สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกิจการแล้ว นักวิเคราะห์หลาย ๆ ท่าน ยังใช้ FCFF ในการประเมิณหามูลค่าของบริษัท และมูลค่าของหุ้นต่อหน่วยอีกด้วยซึ่งก็จะพิจารณาปัจจัยพื้นฐานข้อมูลเชิงคุณภาพเพิ่มเพื่อนำมาประมาณการ การเติบโตของ FCFF ในแต่ละปี
จากสูตรด้านบนเราสามารถหาค่าต่างๆได้จากการเปิดงบการเงินของกิจการ เพื่อความเรียบง่ายจึงสมมติให้รายการในงบเป็นไปตามด้านล่าง ขั้นตอนในการคำนวณ FCFF เป็น ดังนี้
หมายความว่า จริงๆแล้วนั้นกิจการมีเงินสดอิสระที่สามารถนำไปจ่ายคืนผู้ถือหุ้นเป็นเงินปันผล ใช้คืนเจ้าหนี้ หรือลงทุนในโครงการใหม่ๆเพิ่ม 10,400,000 บาท

หากนักลงทุนต้องการทราบถึงผลการดำเนินงานนักลงทุนต้องดูที่งบกำไรขาดทุน โดยรายละเอียดภายในงบนั้นจะชี้แจงให้เห็นว่ารายได้เท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ สิ้นสุดแล้วจะเป็นกำไรสุทธิ นักลงทุนสามารถสังเกตเพิ่มเติม โดยดูว่ารายการค่าใช้จ่ายบางรายการนั้นถูกหักออกไปทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่ได้จ่ายเป็นตัวเงินจริงหรือไม่
เช่น ค่าเสื่อมราคา บางกิจการกำไรน้อยแต่หากเราไปดูงบกำไรขาดทุนพบว่าตัดค่าเสื่อมราคาสูง ก็จะทำให้เรามองกิจการผิดไป ดังนั้นควรที่จะพิจารณากระแสเงินสดอิสระต่อกิจการ (FCFF) ประกอบด้วย เนื่องจากตัวเลขนี้จะสะท้อนเงินสดในมือที่กิจการสามารถนำไปจ่ายหนี้สิน หรือจ่ายคืนผู้ถือหุ้นได้ นั่นเอง

FCFF คืออะไร?
FCFF คือ กระแสเงินสดอิสระต่อกิจการ (Free cash flow to the firm: FCFF) เป็นเงินสดที่บริษัทสามารถนำมาใช้จ่ายได้จริง ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของธุรกิจ ซึ่งบริษัทสามารถนำเงินไปชำระหนี้สิน หรือจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้โดยมีสูตรในการคำนวณ ดังนี้

FCFF กระแสเงินสดอิสระ ช่วยบอกอะไร
เมื่อนักลงทุนคำนวณ FCFF ได้แล้ว นักลงทุนสามารถทำการวิเคราะห์ปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพมาประกอบเพื่อนำมาพยากรณ์ FCFF ของกิจการในอนาคตและคิดย้อนกลับมา ณ ปัจจุบันเพื่อหาราคาหุ้นได้ ตัวอย่างแนวคิดที่ใช้ในการวิเคราะห์ เช่น- Porter’s five force เพื่อดูว่าอุตสาหกรรมของกิจการนั้นเป็นยังไง มีความยากง่ายต่อการทำกำไรไหม
- PESTEL ใช้วิเคราะห์ถึงสภาพแวดล้อมภายนอกว่ามีปัจจัยใดสนับสนุนธุรกิจบ้าง
- VRIO framework ที่ใช้วิเคราะห์ทรัพยากรและความสามารถของกิจการ

จากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง จะเห็นตารางการคำนวณหาราคาหุ้นดังในภาพ ซึ่งจะเห็นมูลค่ากระแสเงินสดอิสระของกิจการ (FCFF) ที่สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกิจการแล้ว นักวิเคราะห์หลาย ๆ ท่าน ยังใช้ FCFF ในการประเมิณหามูลค่าของบริษัท และมูลค่าของหุ้นต่อหน่วยอีกด้วยซึ่งก็จะพิจารณาปัจจัยพื้นฐานข้อมูลเชิงคุณภาพเพิ่มเพื่อนำมาประมาณการ การเติบโตของ FCFF ในแต่ละปี
ตัวอย่างการคำนวณ FCFF
จากสูตรด้านบนเราสามารถหาค่าต่างๆได้จากการเปิดงบการเงินของกิจการ เพื่อความเรียบง่ายจึงสมมติให้รายการในงบเป็นไปตามด้านล่าง ขั้นตอนในการคำนวณ FCFF เป็น ดังนี้ 
- หา NOPAT ด้วยการนำ กำไรสุทธิ*(1-อัตราภาษี) = 8,000,000*(1-(2,000,000/10,000,000)) = 6,400,000 บาท
- Net Change in Working Capital = 17,000,000 - 20,000,000 = -3,000,000 บาท
- NWC 2565 = 25,000,000 - 8,000,000 = 17,000,000 บาท
- NWC 2564 = 30,000,000 – 10,000,000 = 20,000,000 บาท
- เงินลงทุนสำหรับขยายธุรกิจ ในกรณีนี้ยกตัวอย่างเป็นการซื้อสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 2,000,000 บาท
- ค่าเสื่อมราคา 3,000,000 บาท
- เพราะฉะนั้น FCFF = 6,400,000 – (-3,000,000) – 2,000,000 + 3,000,000 = 10,400,000 บาท
หมายความว่า จริงๆแล้วนั้นกิจการมีเงินสดอิสระที่สามารถนำไปจ่ายคืนผู้ถือหุ้นเป็นเงินปันผล ใช้คืนเจ้าหนี้ หรือลงทุนในโครงการใหม่ๆเพิ่ม 10,400,000 บาท
ดู FCFF กระแสเงินสดอิสระได้จากที่ไหน
อย่างที่นักลงทุนสายพื้นฐานหลาย ๆ คนคงคุ้นชินกับการดูงบของบริษัทอยู่แล้ว ซึ่งงบการเงินของบริษัทจะแบ่งเป็น 3 งบใหญ่ๆด้วยกันตามกิจกรรมการดำเนินงานของธุรกิจ ได้แก่- งบแสดงฐานะทางการเงิน (Balance sheet) นักลงทุนจะสามารถทราบได้ว่าแหล่งที่มาของเงินทุนของกิจการนั้นมาจากแหล่ง หนี้สิน หรือทุนเป็นจำนวนเท่าไหร่ และกิจการนำเงินทุนเหล่านั้นไปลงทุนเป็นสินทรัพย์มากน้อยเพียงใด
- งบกำไรขาดทุน (Income statement) เป็นรายงานผลการดำเนินงานของกิจการที่ทำให้นักลงทุนได้ทราบถึงรายรับรายจ่ายของกิจการ
- งบกระแสเงินสด (Statement of Cash flow) เป็นรายงานของกิจการที่แสดงให้นักลงทุนเห็นถึงกิจกรรมที่ใช้เงินสด เช่น การดำเนินงาน การจัดหาเงินทุน เป็นต้น

หากนักลงทุนต้องการทราบถึงผลการดำเนินงานนักลงทุนต้องดูที่งบกำไรขาดทุน โดยรายละเอียดภายในงบนั้นจะชี้แจงให้เห็นว่ารายได้เท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ สิ้นสุดแล้วจะเป็นกำไรสุทธิ นักลงทุนสามารถสังเกตเพิ่มเติม โดยดูว่ารายการค่าใช้จ่ายบางรายการนั้นถูกหักออกไปทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่ได้จ่ายเป็นตัวเงินจริงหรือไม่
เช่น ค่าเสื่อมราคา บางกิจการกำไรน้อยแต่หากเราไปดูงบกำไรขาดทุนพบว่าตัดค่าเสื่อมราคาสูง ก็จะทำให้เรามองกิจการผิดไป ดังนั้นควรที่จะพิจารณากระแสเงินสดอิสระต่อกิจการ (FCFF) ประกอบด้วย เนื่องจากตัวเลขนี้จะสะท้อนเงินสดในมือที่กิจการสามารถนำไปจ่ายหนี้สิน หรือจ่ายคืนผู้ถือหุ้นได้ นั่นเอง
ดูบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวฉบับเต็ม ได้จากหน้าเว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง
สามารถเข้าใช้งานผ่าน เว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง บนเมนู PRE-TRADE >> BLS Research- ค้นหาบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวโดยการระบุ “ชื่อหุ้น” และ “วันที่” ที่ต้องการค้นหา หรือสามารถค้นหาจาก “กลุ่มอุตสาหกรรม” พร้อมกับระบุวันที่ที่ต้องการค้นหา

นักลงทุนมือใหม่ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wealth CONNEX เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้และเข้าถึงทุกบริการลงทุนกับหลักทรัพย์บัวหลวง
- IOS รองรับ iOS 14 ขึ้นไป ติดตั้ง คลิกที่นี่
- Android รองรับ 7.0 ขึ้นไป ติดตั้ง คลิกที่นี่
- Notebook & Personal Computer Browser Support : Chrome, Firefox, Safari7+, IE11+

อ่านคู่มือและเงื่อนไขการใช้งานคลิกที่นี่
✅ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอป Wealth CONNEX บริการเชื่อมต่อทุกความรู้และบริการลงทุน
เลือกเมนู CHAT กด Chat With Customer Service
📌 สำหรับผู้ที่ไม่มีบัญชีกับหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถเปิดบัญชีหุ้นออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร คลิก 👇
หรือศึกษาวิธีการเปิดบัญชีบนหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม คลิก